วันอาทิตย์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2551

Coconut oil (Miracle coconut oil ) ,for keeping body,skin,and hair healthy,look young forever

Applications of Coconut Oil - as a FuelApplications of Coconut Oil
Cooking

Coconut oil is commonly used in cooking, especially when frying, and it has a high smoke point temperature which makes it good for this purpose. In communities where coconut oil is widely used in cooking, the refined oil is the one most commonly used.

Coconut oil is often used in making a curry.


Manufacturing

Coconut oil is used in volume quantities for making margarine, soap and cosmetics.

Hydrogenated or partially-hydrogenated coconut oil is often used in non-dairy creamers, and snack foods.

Fractionated coconut oil is also used in the manufacture of essences, massage oils and cosmetics

The essential value of Coconut Oil

Cosmetics and skin treatments

Coconut oil is excellent as a skin moisturiser. A study shows that extra virgin coconut oil is as effective and safe as mineral oil when used as a moisturiser, with absence of adverse reactions. Although not suitable for use with condoms, coconut oil is an excellent, inexpensive, lubricant for sexual intercourse.

Coconut oil can also help in healing Keratosis pilaris by moisturising the affected area. The coconut oil should be applied in the shower, and may cause the KP bumps to disappear.

In India and Sri Lanka, coconut oil is commonly used for styling hair, and cooling or soothing the head (stress relief). People of coastal districts of Karnataka and Kerala bathe in warm water after applying coconut oil all over the body and leaving it as is for an hour. It is suggested by elders that this ritual must be done at least once in a week, to keep body, skin, and hair healthy.
Good tip: coconut oil use as skin lotion in the vaginal area and under armpits will get rid of the bad smell.

มหัศจรรย์แห่ง น้ำมันมะพร้าว (TREE OF LIFE)

ต้นมะพร้าวสูงมาก มีใบเป็นกระจุกที่ปลายยอด มีลูกเป็นพวงเรียกว่าทะลาย ทะลายละหลายๆลูก น้ำมันที่กลั่นจากมะพร้าวมีคุณค่าเอกอนันต์ มะพร้าวได้ชื่อว่าเป็นพืชแห่งชีวิตมีประโยชน์ทั้งต่อการบริโภค ทางยา และ ประทินความงาม

กลุ่มนักวิทยาศาตร์หลายสาขา ได้วิจัยค้นคว้าและสรุปได้ว่าน้ำมันมะพร้าวไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ถูกกล่าวหา ไม่ได้เป็นบ่อเกิดของโรคร้าย โรคหัวใจ หรือคลอเรสเคอรอลสูงอย่างที่เราๆเข้าใจกัน

ปัจจุบันมีกลุ่มคนไทยที่ค้นคว้าวิจัยก็หลายท่านและที่ active จริงๆจังๆ ก็คือ ดร.ณรงค์ โฉมเฉลา ท่านพิมพ์เอกสารเผยแพร่และแจกฟรีด้วยป็นจำนวนมาก

น้ำมันมะพร้าวไม่เกิด Trans fats และไม่เกิดอนุมูลอิสระ เป็นน้ำมันที่มีโมเลกุลยาวปานกลาง (medium chain) เป็นหนึ่งในน้ำมัน medium chain ที่มีอยู่ไม่มากชนิดนักในโลกนี้ มีภูมิคุ้มกันและสามารถฆ่าเชื้อโรคได้ ช่วยป้องกันมะเร็ง และช่วยให้รับมือกับอาการโรคติดเชื้อบางชนิดได้ดี มีเมนูอาหารมากมายที่ใช้กระทิหรือน้ำมันมะพร้าวหุงต้ม มีฝรั่งเขียนตำรา diet มาขายพี่ไทยเรากินน้ำมันเพื่อลดความอ้วน ก็น้ำมันมะพร้าวนี่เองคือตัวพระเอกนางเอกในบททั้งหมด
น้ำมันมะพร้าวกลั่นบริสุทธ์ยังใช้เป็นยาและเครื่องประทินโฉม บำรุงผิวพรรณและบำรุงเส้นผม เรียกได้ว่าใช้ได้ตั้งแต่ศรีษะจรดปลายเท้า ใช้เป็นเครื่องสำอางค์ประจำตัว หยดเล็กๆก็พอแล้วที่จะทำให้ผิวหน้าดูอ่อนเยาว์แถมกระชับรูขุมขนดีมาก และลดความมันโดยวิธีธรรมชาติ ไม่ต้องไปซื้อเครื่องสำอางค์ทั้งของไทยและต่างประเทศให้เสียเงิน

นี่และมะพร้าวพืชแห่งชีวิต เป็นน้ำมันพืชที่มีคุณค่าต่อสุขภาพและความงามของมนุษย์มากที่สุดในโลก ใครมีความรู้ข้อมูลมาแลกเปลี่ยนและสร้างเสริม และช่วยรณรงค์กันใช้มะพร้าวและผลผลิตจากมะพร้าวกันเถอะ

ทั้งหมดมีเอกสารอ้างอิง ของดร.ณรงค์ โฉมเฉลา, Jon J.Kabara Ph.D. และ อื่นๆ



รู้จักน้ำมันมะพร้าว

น้ำมันมะพร้าวอาจแบ่งได้เป็น 2 ชนิดหลักๆ ได้แก่ น้ำมันมะพร้าวทั่วไป (RBD Coconut Oil) และน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ ( Virgin Coconut Oil ) ซึ่งน้ำมันมะพร้าว อย่างหลังกำลังได้รับความสนใจอย่างสูงเนื่องจากเป็นที่นิยมและยอมรับอย่างกว้างขวางว่ามีคุณประโยชน์มากมายต่อสุขภาพ

น้ำมันมะพร้าวทั่วไป ( RBD Coconut Oil )

น้ำมันมะพร้าวที่เป็นที่รู้จักกันทั่วไป เช่นใช้ในการทอดอาหาร หรือในการผลิตอาหารต่างๆ เป็นน้ำมันมะพร้าวที่ผลิตจากเนื้อมะพร้าวแห้ง (Copra) น้ำมันที่สกัดได้จะต้องผ่านขบวนการทำให้บริสุทธิ์ (Refined) การฟอกสี (Bleached) และกำจัดกลิ่น (Deodorized) ก่อนที่จะนำไปบริโภค น้ำมันชนิดนี้บางครั้งจะถูกกล่าวถึงว่าเป็น “น้ำมันธรรมชาติ” (Natural Coconut Oil) แต่ความจริงเป็นน้ำมันมะพร้าวชนิด RBD (Refined, Bleached, Deodorized) น้ำมันชนิดนี้จะมีความหนืด และมีสีเหลืองอ่อน

น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ (Virgin Coconut Oil)

น้ำมันมะพร้าวอีกชนิดหนึ่ง รู้จักกันในชื่อ “น้ำมันมะพร้าวเวอร์จิ้น” (Virgin Coconut Oil) หรือน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ ซึ่งมีขบวนการผลิตที่พิถีพิถันมาก ที่เรียกว่า Cold Process หรือ Cold Pressed เพราะไม่มีการใช้ความร้อนเลย ทำให้ได้น้ำมันที่มีคุณภาพพิเศษ ที่มีกลิ่นหอม รสชาติดี อุดมด้วยวิตามิน E และสาร Antioxidants และได้รับการกล่าวขวัญว่ามีประโยชน์มากมายต่อสุขภาพ

ขั้นตอนการผลิตน้ำมันมะพร้าวทั่วไป (RBD)


เนื้อมะพร้าวจะถูกนำมาทำให้แห้ง โดยการตากหรืออบในเตา เพื่อให้น้ำในเนื้อมะพร้าว ลดลงจากประมาณ 50% เหลือ 3.5%
จากนั้นเนื้อมะพร้าวแห้ง (Copra) จะถูกบด และนำไปผสมกับน้ำเดือด ก่อนที่จะผ่านต่อไปยังเครื่องนวด เพื่อคั้นน้ำมันออกมาให้ได้มากที่สุด

หลังจากแยกกากออก ส่วนผสมที่ได้จะถูกเคี่ยวช้าๆด้วยความร้อนต่ำ เป็นเวลานานเพื่อให้ น้ำระเหยออกไป จนเหลือแต่น้ำมัน
(หมายเหตุ: ผู้ผลิตบางรายอาจใช้วิธีต้ม Copra ที่บดแล้ว และบางรายอาจใช้สารละลาย เพื่อช่วยให้สกัดน้ำมันได้มากขึ้น เศษกากมะพร้าวที่เหลือมีโปรตีนสูง และมักใช้เป็นอาหารสัตว์)
น้ำมันที่ได้จะต้องผ่านขบวนการกรอง เพื่อแยกสิ่งแปลกปลอมออกแล้วนำไปต้มเป็นเวลาหลายชั่วโมง เพื่อขจัดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์
การฟอกสีและการกรองอีกครั้งจะทำให้ได้น้ำมันมะพร้าวที่ไม่มีสี และปราศจากกลิ่นหรือแม้แต่รสชาติ ผู้ผลิตส่วนมากจะเติมสี เพราะเกรงว่าน้ำมันใสๆจะไม่ถูกใจผู้บริโภค

ขั้นตอนการผลิตน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ Virgin Coconut Oil

ในขบวนการผลิตจะใช้ระบบ Cold Press ซึ่งจะไม่มีการใช้ความร้อนใดๆทั้งสิ้น งานส่วนใหญ่จะทำด้วยมือ โดยเริ่มจากการคัดเฉพาะมะพร้าวคุณภาพดี จากนั้นนำเนื้อมะพร้าวสดไป “ขูด” หรือ “บด” โดยใช้เครื่องขูด/บดมะพร้าว
เนื้อมะพร้าวที่ขูดแล้ว จะถูกนำไปใส่ถุงตาข่ายพิเศษ และคั้นน้ำกะทิออกด้วยมือหรือเครื่องอัดแบบใช้มือ (Manual Press)
น้ำกะทิที่ได้จะถูกนำไปผสมกับน้ำมะพร้าว และปล่อยทิ้งไว้ให้แยกตัว (Culturing) ซึ่งใช้เวลาไม่เกิน 20 ชั่วโมง ส่วนผสมจะแยกตัวออกเป็น 3 ชั้น ชั้นบนจะเป็นส่วนของโปรตีน ชั้นกลางจะเป็นน้ำมันมะพร้าว และชั้นล่างสุดจะเป็นน้ำ น้ำมันที่ได้จะถูกแยกออกมา กรอง และแยกส่วนน้ำทิ้งไป แล้วปล่อยทิ้งไว้ให้แยกตัว (Resting)
ขบวนการที่ปล่อยน้ำมันทิ้งไว้ (Resting) ตามด้วยการแยกตัวและแยกน้ำออก (Decanting) และกรอง (Filtering) เรียกว่า “Curing” หรือ การบ่ม

น้ำมันมะพร้าวจะถูกแยกตัว และกรองครั้งสุดท้าย หลังสิ้นสุด 3 สัปดาห์ น้ำมันที่ได้จะเป็น น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ Virgin Coconut Oil ซึ่งจะมีคุณสมบัติพิเศษคือ นอกจากจะใสบริสุทธิ์แล้ว ยังจะมีกลิ่นหอม และรสชาติของมะพร้าวอ่อนๆอีกด้วย สามารถเก็บไว้ได้นานเป็นปีโดยไม่ต้องใส่ตู้เย็น และปราศจากกลิ่นหืนใดๆทั้งสิ้น ทั้งนี้เป็นเพราะสาเหตุอันเนื่องมาจากสาร Tocopherol ในน้ำมันไม่ถูกทำลายลงด้วยขบวนการใช้ความร้อน ซึ่งสารตัวนี้ทำหน้าที่เสมือนสารกันบูดโดยธรรมชาติ น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ (Virgin) จะแข็งตัวเมื่ออุณหภูมิลดลงต่ำกว่า25 องศา

น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์(Virgin Coconut oil)ใช้เป็นโลชั่นทาผิว ช่วยบำรุงผิวให้อ่อนเยาว์ เมื่อทาไปที่จุดซ่อนเร้น ที่รักแร้และส่วนล่างจะช่วยขจัดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ไม่ต้องใช้ พวกดีโอโดแรนท์ ซึ่งมักจะมีส่วนผสมพวกสารเคมีไม่ดีต่อสุขภาพ ใช้แทนครีมกันแดด ใช้หมักเส้นผม จะได้เส้นผมที่นุ่มสลวยเป็นเงางาม ใช้ทำความสะอาดผิวหน้าล้างเครื่องสำอางค์ได้เป็นอย่างดี หรือจะใข้เป็นครีมบำรุงหน้าและตัว นำมานวดตัวช่วยให้ไขมันลด มีอีกหลายประการจาระนัยไม่หมด

คราวหน้าจะนำน้ำมันงามาฝาก

ไม่มีความคิดเห็น: