หนักแค่ไหนก็ไม่ทุกข์ ถ้าฉลาดทำใจ
สุขหรือทุกข์อยู่ที่ใจเป็นสำคัญมีเงินมากมายอาจมีทุกข์ขณะที่คนซึ่งหาเช้ากินค่ำกลับมีความสุขมากกว่า แม้มีรูปร่างสวยงามก็ยังกลุ้มใจจนเป็นโรคประสาท ขณะที่คนพิการ ผอมลีบทั้งตัว ไปไหนด้วยดัวเองไม่ได้ กลับมีความสุขจนใครๆอิจฉา เจออะไรไม่สำคัญเท่ากับว่าทำใจอย่างไร เจอสิ่งดีๆ แต่ทำใจไม่ถูก ก็ทุกข์มหันต์ ในทางตรงข้าม เจอสิ่งร้ายๆแต่ทำใจไว้ถูก ก็สุขได้
ฉลาดในอาชีพการงาน ฉลาดในการดูแลรักษาสุขภาพ ฉลาดในการสมาคมกับผู้คน รวมทั้งฉลาดในการสร้างสรรค์ประโยชน์ให้ส่วนรวม ลิ่งดีทั้งนั้น แต่ที่ไม่ควรละเลยก็คือ ฉลาดในการทำใจ โดยเฉพาะเมื่อประสบกับเหตุร้ายหรือความไม่สมหวัง
คนเรามีความทุกข์ด้วยเรื่องต่างๆมากมายแต่ละคนก็มีสาเหตุต่างๆ แต่เมื่อมองในภาพรวมแล้ว มักหนีไม่พ้นเหตุร้ายหรือความไม่สมหวัง 4 เรื่องได้แก่ ทรัพย์สินเงินทอง ร่างกาย การงาน ความสัมพันธ์กับผู้คน ทั้ง 4 เรื่องนี้แม้ว่าจะหนักหนาสาหัสเพียงใด แต่หากรู้จักทำใจให้ถูกต้อง เรื่องร้ายก็กลายเป็นเบา หรืออาจกลายเป็นคุณประโยชน์ต่อเราด้วยซ้ำ
บัณฑิตได้สุขหรือทุกข์กระทบ ก็ไม่แสดงอาการขึ้นๆลงๆ
คนที่ถูกนินทาอย่างเดียว หรือได้รับการสรรเสริญอย่างเดียว ไม่เคยมีมาแล้ว จักไม่มีต่อไป ถึงขณะนี้ก็ไม่มี
จิตที่ฝึกแล้วนำสุขมาให้
อย่าละห้อยความหลัง อย่ามัวหวังอนาคต
วันอังคารที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2551
Make yourself feel happy
Make yourself feel happy\
Follow these simple steps - and you’ll feel better.
step 1: Tell yourself: “this will pass” … (it always does!)
step 2: Turn your mind to thoughts that make you smile:Recall your fondest memories …
- the best holiday you ever had
- the happiest day of your life- the funniest thing you ever sawFantasize …
- the future you want for yourself
- the holiday of your dreams- fabulous sex- being happySit quietlyListen to musicReadLook through your photo albumsWatch home moviesPhone a friendDo whatever it is you get ‘lost’ in …- creative endeavours- artistic endeavours- hobbies- passions
Follow these simple steps - and you’ll feel better.
step 1: Tell yourself: “this will pass” … (it always does!)
step 2: Turn your mind to thoughts that make you smile:Recall your fondest memories …
- the best holiday you ever had
- the happiest day of your life- the funniest thing you ever sawFantasize …
- the future you want for yourself
- the holiday of your dreams- fabulous sex- being happySit quietlyListen to musicReadLook through your photo albumsWatch home moviesPhone a friendDo whatever it is you get ‘lost’ in …- creative endeavours- artistic endeavours- hobbies- passions
การทำสมาธิเพื่อแก้กรรม
คุณบางคนอาจเคยอ่านเรื่องของริชชี่หนุ่มน้อยผู้มีพรสวรรค์ มองเห็นในสิ่งที่เราทั่วๆไปไม่เคยเห็น แนะนำว่าให้นั่งสมาธิขออโหสิกรรม แก่เจ้ากรรมนายเวรบ่อยๆเพราะคนหนึ่งไม่ได้มีกรรมแร่อย่างเดียว ดังนั้นถ้าหากนั่งสมาธิให้เจ้ากรรมนายเวรไปเรื่อยๆ ก็จะเป็นการช่วยให้ปัญหาที่กำลังจะเกิดนั้นสามารถผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ หรืออาจจะทำให้ปัญหานั้นคลี่คลายไปได้เลย
การทำสมาธิเพื่อแก้กรรมนี้ควรทำในช่วงกลางวันระหว่าง 6 โมงเช้าไปจนถึง 5 โมงเย็น หรือก่อนพระอาทิตย์ตกดินเท่านั้นโดยเฉพาะคนที่ไม่แก่กล้า หรือพึ่งจะฝึกนั่งสมาธิ เหตุผลก็คือคนธรรมดาทั่วไปในช่วงกลางวันจะมีพลังจิตที่สมบูรณ์เหนือกว่าจิตวิญญาณเนื่องมาจากสภาพร่างกายที่ผักผ่อนเต็มที่ในเวลากลางคืน ดังนั้นจิตก็จะสมบูรณ์แข็งแรงเหนือร่างกาย ส่วนกลางคืนจิตจะอ่อนลงตามร่างกายทีเหนื่อยล้าอ่อนเพลียจากการทำงานมาทั้งวัน นอกจากนี้หากทำในเวลากลางคืนไม่เพียงแต่จะสื่อถึงเจ้ากรรมนายเวรของเราเท่านั้น แต่ยังสื่อไปถึงเจ้ากรรมนายเวรของเราเท่านั้น แต่ยังสื่อไปถึงสิ่งได้ด้วยสิ่งที่ว่านั้น เช่น วิญญาณสัมภเวสี หรือวิญญาณเร่ร่อนที่ไม่มีพลังเป็นของตัวเอง เนื่องจากตอนมีชีวิตไม่เคยปฏิบัติสมาธิ พอตายไปก็ไม่สามารถรวบรวมจิตที่แตกไปให้กลัมารวมกันได้ พวกนี้พอเห็นว่าใครกำลังทำสมาธิก็จะมาขอส่วนบุญ ถ้าเขามาถึงก่อนเจ้ากรรมนายเวรของเราก็เท่ากับว่าการนั่งสมาธิครั้งนั้นไม่มีค่าอะไรเลยอีกทั้งยังอาจส่งผลเสียอีกด้วย เพราะวิญญาณเร่ร่อนที่จ้องมาเอาผลบุญจากเรานั้น ที่จริงเขาไม่สามารถเอาผลบุญไปจากเราเพราะการทำสามาธิผู้ที่ทำจะได้รับผลบุญเอง ไม่สามารถแบ่งให้ใครได้ เมื่อมาทั้งทีแต่ไม่สามารถมาเอาผลบุญจากเราได้ วิญญาณนั้นก็อาจจะโกรธแค้นและตามเป็นเจ้ากรรมนายเวรของเราต่อไปก็ได้ กลายเป็นผลเสียมากกว่าผลดี งนั้นจะให้ดีที่สุดการนั่งสมาธิให้เจ้ากรรมนายเวรควรจะนั่งตอนกลางวันเท่านั้น แต่สำหรับผู้ฝึกจิตมาเป็นอย่างดี จนมีพลังจิตแก่กล้านั่นสามารถที่จะนั่งสมาธิให้เจ้กรรมนายเวร เพื่อแก้กรรมได้ทุกเวลา ส่วนการนั่งสมาธิเพื่อการปฏิบัติทั่วไปสามารถนั่งได้ทักเวลาตามแต่พอใจ จะใช้เวลานั่งนานกี่นาทีก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคน
คำกล่าวนำก่อนทำสมาธิเพื่อแก้กรรา
"ถึงเจ้ากรรมนายเวรของลูก ขณะนี้ลูกชื่อ นาย นาง นางสาว...........นามสกุล..............กำลังทำสมาธิถึงเจ้ากรรมนายเวรของลูกอยู่ ซึ่งไม่ว่าเจ้ากรรมนายเวรของลูกจะเป็นคนใกล้ตัว สัตว์ใกล้ตัว เทวดาใกล้ตัว ทั้งที่มีชีวิตอยู่และดับสูญกายเป็นจิตวิญญาณเป็นเทยแล้วก็ตาม (บอกปัญหาหรือดรคที่เกิดขึ้นกับตัวเองให้ละเอียดที่สุด)ซึ่งลูกรู้แล้วว่ามันเจ็บปวดเพียงใด มาบัดนี้ได้รับรู้ผลกรรมที่ลูกทำไว้กับท่านในอีตชาติแล้ว ลูกรู้สำนึกบาปแล้ว ลูกจึงขอทำสมาธิเพื่อให้เจ้ากรรมนายเวรเห็นว่าลูกได้สำนึกผิดแล้ว
การทำสมาธินี้ไม่ใช่การทำเพื่อเอาผลบุญให้แก่ท่านแต่เป็นการทำเพื่อให้รู้ว่าลูกสำนึกบาป บุญ คุณ โทษ กรรมเวรต่างๆที่ลูกได้ทำแล้ว เพราะผลบุญถ้าใครอยากได้ต้องปฏิบัติเอง โดยถ้าท่านพอใจการทำสมาธิ ขอให้ให้ท่านนำเอาส่งที่ทำทิ้งไว้กับลูกกลับคืนไปด้ว ด้วยการให้อาการและปัญหาต่างๆของลูกหายเป็นปลิดทิ้ง โดยลูกจะขอนั่งสมาธิ ณ บัดนี้
ข้อความนี้เผื่อจะเป็นประโยชน์ กับท่านที่กำลังมีปัญหาต่างๆแก้ไม่ตก หรือเจ็บป่วยและหาทางต่างๆรักษาไม่ดีขึ้น เผื่อจะช่วยท่านได้
การทำสมาธิเพื่อแก้กรรมนี้ควรทำในช่วงกลางวันระหว่าง 6 โมงเช้าไปจนถึง 5 โมงเย็น หรือก่อนพระอาทิตย์ตกดินเท่านั้นโดยเฉพาะคนที่ไม่แก่กล้า หรือพึ่งจะฝึกนั่งสมาธิ เหตุผลก็คือคนธรรมดาทั่วไปในช่วงกลางวันจะมีพลังจิตที่สมบูรณ์เหนือกว่าจิตวิญญาณเนื่องมาจากสภาพร่างกายที่ผักผ่อนเต็มที่ในเวลากลางคืน ดังนั้นจิตก็จะสมบูรณ์แข็งแรงเหนือร่างกาย ส่วนกลางคืนจิตจะอ่อนลงตามร่างกายทีเหนื่อยล้าอ่อนเพลียจากการทำงานมาทั้งวัน นอกจากนี้หากทำในเวลากลางคืนไม่เพียงแต่จะสื่อถึงเจ้ากรรมนายเวรของเราเท่านั้น แต่ยังสื่อไปถึงเจ้ากรรมนายเวรของเราเท่านั้น แต่ยังสื่อไปถึงสิ่งได้ด้วยสิ่งที่ว่านั้น เช่น วิญญาณสัมภเวสี หรือวิญญาณเร่ร่อนที่ไม่มีพลังเป็นของตัวเอง เนื่องจากตอนมีชีวิตไม่เคยปฏิบัติสมาธิ พอตายไปก็ไม่สามารถรวบรวมจิตที่แตกไปให้กลัมารวมกันได้ พวกนี้พอเห็นว่าใครกำลังทำสมาธิก็จะมาขอส่วนบุญ ถ้าเขามาถึงก่อนเจ้ากรรมนายเวรของเราก็เท่ากับว่าการนั่งสมาธิครั้งนั้นไม่มีค่าอะไรเลยอีกทั้งยังอาจส่งผลเสียอีกด้วย เพราะวิญญาณเร่ร่อนที่จ้องมาเอาผลบุญจากเรานั้น ที่จริงเขาไม่สามารถเอาผลบุญไปจากเราเพราะการทำสามาธิผู้ที่ทำจะได้รับผลบุญเอง ไม่สามารถแบ่งให้ใครได้ เมื่อมาทั้งทีแต่ไม่สามารถมาเอาผลบุญจากเราได้ วิญญาณนั้นก็อาจจะโกรธแค้นและตามเป็นเจ้ากรรมนายเวรของเราต่อไปก็ได้ กลายเป็นผลเสียมากกว่าผลดี งนั้นจะให้ดีที่สุดการนั่งสมาธิให้เจ้ากรรมนายเวรควรจะนั่งตอนกลางวันเท่านั้น แต่สำหรับผู้ฝึกจิตมาเป็นอย่างดี จนมีพลังจิตแก่กล้านั่นสามารถที่จะนั่งสมาธิให้เจ้กรรมนายเวร เพื่อแก้กรรมได้ทุกเวลา ส่วนการนั่งสมาธิเพื่อการปฏิบัติทั่วไปสามารถนั่งได้ทักเวลาตามแต่พอใจ จะใช้เวลานั่งนานกี่นาทีก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคน
คำกล่าวนำก่อนทำสมาธิเพื่อแก้กรรา
"ถึงเจ้ากรรมนายเวรของลูก ขณะนี้ลูกชื่อ นาย นาง นางสาว...........นามสกุล..............กำลังทำสมาธิถึงเจ้ากรรมนายเวรของลูกอยู่ ซึ่งไม่ว่าเจ้ากรรมนายเวรของลูกจะเป็นคนใกล้ตัว สัตว์ใกล้ตัว เทวดาใกล้ตัว ทั้งที่มีชีวิตอยู่และดับสูญกายเป็นจิตวิญญาณเป็นเทยแล้วก็ตาม (บอกปัญหาหรือดรคที่เกิดขึ้นกับตัวเองให้ละเอียดที่สุด)ซึ่งลูกรู้แล้วว่ามันเจ็บปวดเพียงใด มาบัดนี้ได้รับรู้ผลกรรมที่ลูกทำไว้กับท่านในอีตชาติแล้ว ลูกรู้สำนึกบาปแล้ว ลูกจึงขอทำสมาธิเพื่อให้เจ้ากรรมนายเวรเห็นว่าลูกได้สำนึกผิดแล้ว
การทำสมาธินี้ไม่ใช่การทำเพื่อเอาผลบุญให้แก่ท่านแต่เป็นการทำเพื่อให้รู้ว่าลูกสำนึกบาป บุญ คุณ โทษ กรรมเวรต่างๆที่ลูกได้ทำแล้ว เพราะผลบุญถ้าใครอยากได้ต้องปฏิบัติเอง โดยถ้าท่านพอใจการทำสมาธิ ขอให้ให้ท่านนำเอาส่งที่ทำทิ้งไว้กับลูกกลับคืนไปด้ว ด้วยการให้อาการและปัญหาต่างๆของลูกหายเป็นปลิดทิ้ง โดยลูกจะขอนั่งสมาธิ ณ บัดนี้
ข้อความนี้เผื่อจะเป็นประโยชน์ กับท่านที่กำลังมีปัญหาต่างๆแก้ไม่ตก หรือเจ็บป่วยและหาทางต่างๆรักษาไม่ดีขึ้น เผื่อจะช่วยท่านได้
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)